เมื่อผมถามน้อง ๆ ที่ทำการตลาดออนไลน์อยู่ว่า “ได้นำ Google Analytics (เรียกสั้น ๆ ว่า GA) มาใช้ เพื่อเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่เข้าเว็บไซต์ตัวเองกันอยู่หรือเปล่า?”
คำตอบส่วนใหญ่ก็จะตอบว่า “ใช้อยู่ครับ/ค่ะ”
ผมว่าตัวเลขน่าจะเกินครึ่ง สำหรับที่คนที่มีเว็บไซต์แล้วนำ GA มาใช้งาน เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของคนที่เข้าเว็บไซต์
ทีนี้ผมก็ถามต่อว่า “แล้วได้เอา Google Tag Manager มาใช้กันบ้างหรือเปล่า?“
ผมเห็นว่าบางคนก็จะทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามขึ้นมาทันที???
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะว่าจริง ๆ แล้ว การใช้งาน Google Tag Manager (เรียกสั้น ๆ ว่า GTM) นั้น จะว่าใช้ง่าย มันก็ง่าย จะว่าใช้ยาก มันก็ยากอยู่ (ทุกอย่างเรียนรู้ได้ ถ้าคุณสนใจแล้วก็ตั้งใจที่จะเรียนรู้มันจริง ๆ)
ยิ่งหากว่าคุณเป็นคนทำโฆษณาออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, LINE หรือจะน้องใหม่มาแรงอย่าง TikTok
ที่ต่างก็อยากให้คุณเอา Tags ของเค้าไปติดไว้ที่เว็บไซต์ของคุณกันทั้งนั้น!
![google-tag-manager-intro บริหารจัดการ Tags ด้วย GTM](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/google-tag-manager-intro-pajqwzyrlf188ex6bv4txytenhzr3de2ojhxeuwjze.png)
ในโพสนี้ เราจะมาทำความรู้จักกันครับว่า Google Tag Manager คืออะไร? มันเกี่ยวอะไรกับ GA? คุณจะได้ประโยชน์อะไรจากการนำ GTM มาใช้งานในเว็บไซต์ของคุณ รวมไปถึงวิธีการติดตั้ง GTM ในเว็บไซต์ของคุณด้วย
ผมมั่นใจว่า การนำ GTM มาใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณนั้น จะช่วยให้เรื่องของการติดตั้งพวก Tags ต่าง ๆ เหล่านั้น…
…ง่าย แล้วก็สะดวกสบายมากขึ้นได้อย่างแน่นอน
ว่าแล้วก็มาลุยไปพร้อม ๆ กันเลยครับ 🙂
![gtm-made-easy การนำ GTM มาใช้ สามารถทำให้เรื่องการติดตั้ง Tags (Code) ต่าง ๆ ง่ายขึ้นได้มากๆๆๆ](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-made-easy-pajqx8fbaxct4wkvygsh2eojzyu20nbnppdaqck0fe.png)
ทำไมคุณถึงควรนำ GTM มาใช้กับเว็บไซต์ของคุณ?
ผมขอตอบง่าย ๆ ด้วยเหตุผลสั้น ๆ ครับว่า…
GTM สามารถช่วยทำให้ “งาน” ของคุณง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และก็สะดวกขึ้น
ทีนี้มาดูเหตุผลยาว ๆ กันครับว่า GTM สามารถช่วยทำให้ “งาน” อะไรของคุณ มันง่ายขึ้นได้บ้าง
– คุณไม่ต้องเสียเวลาไปแก้ไข Source Code ของเว็บไซต์ด้วยตัวเอง เพื่อทำการติด Tags* ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Google Analytics, Facebook Pixel, TikTok Pixel ฯลฯ
*Tags ในที่นี้ยกตัวอย่างเช่น Google Conversion Tag, Facebook Pixel, TikTok Pixel ซึ่งจะเป็น JavaScript Code ที่เอาไปติดไว้ที่ Source Code ของเว็บไซต์หรือแอปฯ มือถือของคุณ
– คุณสามารถที่จะ “ใส่เพิ่ม” หรือ “ถอดออก” พวก Tags ต่าง ๆ ด้วยตัวคุณเองได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องรอให้ทางทีมอย่างโปรแกรมเมอร์หรือ Webmaster มาช่วยจัดการให้ คือไม่ต้องไปวุ่นวายกับพวกเค้ามากเกินไป
– คุณสามารถทดสอบการใช้งานของ Tags ต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าเว็บจะพัง ผ่านการใช้งาน Preview Mode
– หากว่าคุณ Advanced ขึ้นไปอีก คุณจะสามารถนำ GTM มาใช้ทำพวก Event Tracking, Enhanced Ecommerce (ผ่านทาง Data Layer) และเทคนิคขั้นสูงอื่น ๆ อีกเพียบ (เอาจริง ๆ แล้ว GTM มันไม่ได้เอาไว้ใช้แค่การจัดการพวก Tags หรือว่า Code ต่าง ๆ ที่นำมาติดที่เว็บไซต์ของตัวเองแค่นั้น ไว้จะเอามาเขียนให้ได้อ่านกันครับ)
การนำ GTM มาใช้ในส่วนของโฆษณาออนไลน์
หากว่าคุณทำโฆษณาออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ การติดตั้ง Tags ของแพลตฟอร์มโฆษณาเหล่านั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ครับ! (ขอย้ำว่าสำคัญมาก ๆๆๆ)
![facebook-pixel Facebook Pixel Code](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/facebook-pixel-pajqw08wdpobz8d24fp0b7tw2uvsyvg9vmph6cdiao.png)
![tiktok-pixel TikTok Pixel](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/tiktok-pixel-pajqxoekj3yom9xod5p4qsne3inani33fwgjw1wbhm.png)
ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, LINE หรือล่าสุดที่ฮิต ๆ ในบ้านเราก็คือ TikTok คุณก็จะรู้ดีว่า แพลตฟอร์มโฆษณาทั้งหลายเหล่านี้ ต่างก็ต้องการให้คุณเข้าไปติดตั้ง Code (หรือบางเจ้าเรียกว่า Pixel) ในเว็บไซต์ของคุณเองกันทุก ๆ เจ้าเลย
เพราะว่ามันจะช่วยทำการเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณ แล้วก็ส่งข้อมูลกลับไปที่แพลตฟอร์มโฆษณาเหล่านั้น แล้วทางแพลตฟอร์มโฆษณาก็จะทำการ Optimize เพื่อทำให้ประสิทธิภาพโฆษณาของคุณดียิ่ง ๆ ขึ้นได้ ผ่านกระบวนการ (ที่เรียกกันเท่ห์ ๆ) ว่า AI และ Machine Learning ของพวกเค้าต่อไปครับ
แล้วยิ่งคุณมีข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่กลายมาเป็นลูกค้าของคุณ หรือที่เรียกว่า Conversions ได้มากเท่าไหร่
แพลตฟอร์มโฆษณาเหล่านั้น ก็จะไปทำการ Optimize แล้วเอาโฆษณาของคุณไปยิงหากลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะกลายมาเป็นลูกค้าของคุณ (ในอนาคต) ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นด้วยครับ
ผมถึงขอย้ำว่า การติดตั้งพวก Tags ต่าง ๆ ของพวกเค้าเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆๆๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ทำโฆษณาออนไลน์ทั้งหลาย
ทีนี้มาทำความรู้จักกับ GTM กันต่อครับว่ามันคืออะไร?
GTM คืออะไร?
Google Tag Manager หรือ GTM ก็คือเครื่องมือ (ฟรี!) ของ Google ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้จัดการพวก Tags ต่าง ๆ ที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย สะดวก และรวดเร็วกว่า
ซึ่งใน GTM จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้
1. Tag
พวก Tracking Code ต่าง ๆ ที่พวกแพลตฟอร์มทั้งหลายอยากให้คุณติดที่เว็บไซต์ของคุณนั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็น Google Analytics, Facebook Pixel, TikTok Pixel เป็นต้น
โดยที่ในระบบ GTM จะมี Template เตรียมไว้ให้คุณเลือกว่าคุณจะสร้าง Tag ของแพลตฟอร์มไหน แล้วคุณก็แค่เข้าไปกรอกข้อมูลเฉย ๆ โดยที่ไม่ต้องเข้าไปแก้ไขที่ Source Code แต่อย่างใด จึงทำให้การใช้ GTM นี้สะดวก และก็รวดเร็วกว่าเยอะเลยครับ
![gtm-template-tags GTM Template Tags](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-template-tags-pajqxgvv0foe1e8ll2g46ujpcfocxx98qv8o1u7l00.png)
![gtm-template-gallery Google Tag Manager Template Gallery](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-template-gallery-pajqxgvv0foe1e8ll2g46ujpcfocxx98qv8o1u7giw.png)
2. Trigger
เมื่อคุณสร้าง Tag ขึ้นมาแล้ว สิ่งที่จะต้องคู่กันกับ Tag เสมอก็คือ Trigger
คือคุณต้องกำหนด Condition ให้กับ Tag นั้น ๆ ว่า คุณอยากให้มันทำงานเมื่อไหร่?
เช่น เมื่อโหลดหน้าเว็บไซต์ เมื่อมีคนคลิกที่ลิงค์ เมื่อมีคนกดปุ่มแบบฟอร์ม ฯลฯ
Trigger ที่ใช้กันบ่อย ๆ ก็จะมี เช่น All Pages ก็คือ การให้ Tag นั้น ๆ ทำงาน เมื่อมีการโหลดหน้าเว็บไซต์
หรือจะเป็น Click เมื่อมีคนกดที่ปุ่ม Add to Cart ก็จะให้ Tag ที่เป็น Event ส่งค่าไป เป็นต้น
![gtm-triggers ตัวอย่างของ Trigger ที่มีให้เลือกใน GTM](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-triggers-pajqxjpdkxs9084i4lnzwbu34lagl0kfr974ho3a08.png)
3. Variables
ตัวแปรต่าง ๆ ที่อยู่ในระบบ GTM ที่สามารถนำมาใช้เป็น Condition ให้กับ Trigger ได้
ซึ่งจะมีอยู่ 2 แบบ ก็คือ Built-in และ User-Defined Variables
หรือจะนำไปใช้เป็นตัวแปรที่อยู่ใน Data Layer แล้วส่งค่าไปยัง Google Analytics เพื่อทำการเก็บข้อมูล แล้วนำไปใช้วิเคราะห์ต่อไปได้ (ไว้จะเอาเรื่องของ Data Layer มาเขียนให้รู้จักกันต่อครับ ต้องบอกว่า Data Layer นี่เป็นตัวแปรที่สำคัญมาก ๆ สำหรับคนที่อยากเก็บข้อมูลของคนเข้าเว็บไซต์ แล้วเอาไปวิเคราะห์อย่างจริงจังเลยครับ)
![gtm-variables Variables ต่าง ๆ ใน GTM](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-variables-pajqxkn7rrtjbu34z42mgtljpz5tspo63dulyy1x1m.png)
มาเริ่มต้นใช้งาน Google Tag Manager กันดีกว่า
ก่อนอื่นคุณต้องสมัครใช้งาน GTM ก่อนที่ลิงค์นี้ https://marketingplatform.google.com/about/tag-manager/ แล้วก็กดปุ่ม Start for free
![gtm-made-easy การนำ GTM มาใช้ สามารถทำให้เรื่องการติดตั้ง Tags (Code) ต่าง ๆ ง่ายขึ้นได้มากๆๆๆ](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-made-easy-pajqx8fbaxct4wkvygsh2eojzyu20nbnppdaqck0fe.png)
เมื่อ Login เข้าไปแล้ว ให้คุณคลิกที่ Create Account แล้วใส่รายละเอียดเข้าไป
- Account Name – ให้ใส่ชื่อบริษัทของคุณ หรือชื่อธุรกิจของคุณ เช่น Konvertive
- Container Name – ให้ใส่ชื่อโดเมนเนมของคุณ อย่างของผมก็จะเป็น www.konvertive.com
- Target platform – ให้เลือกเป็น Web (ถ้าคุณเอา GTM ไปใช้กับแอปฯ ก็ให้เลือกเป็น iOS หรือ Android)
![gtm-new-account GTM New Account](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-new-account-pajqx9d5hre3gijisz73mwg0lcpf8cfe1u0s7milwo.png)
![gtm-id GTM ID](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-id-pajqx6jmx9a8honm9fz7xf5mt73bl9471g2brsmsfc.png)
![gtm-code GTM Code](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-code-pajqx0wls92ik0vt6djgigkv8vv4b2ht0o5ew4v5go.png)
คุณอาจจะรบกวนทางคนที่ทำเว็บไซต์ให้คุณ ให้ช่วยติดตั้ง GTM Container ให้ก็ได้เพียงแค่ครั้งเดียว
ขอย้ำว่าเพียงแค่ติด Code GTM Container แค่ครั้งเดียว คุณก็จะสามารถเอา Tags ต่าง ๆ ที่พูดไปก่อนหน้านี้มาใช้งานได้แล้ว โดยที่คุณไม่ต้องเข้าไปใส่ Tags ต่าง ๆ เองที่ตัวเว็บไซต์
หลังจากนี้ หากคุณต้องการที่จะติดตั้ง Tags อะไรเพิ่มเติม ก็สามารถทำได้ผ่านทางระบบของ GTM นี้ได้เลย โดยที่คุณไม่ต้องรอให้คนดูแลเว็บมาจัดการให้ สะดวกมาก ๆ
ซึ่งเหมาะกับวิถีการทำงานของนักการตลาดออนไลน์สมัยใหม่อย่างพวกเรามาก ๆ เลยครับ 😉
ส่วนคนไหนที่ใช้เว็บไซต์ที่เป็น WordPress ผมแนะนำให้ใช้ Plugin ที่ชื่อว่า Google Tag Manager for WordPress ของ Thomas Geiger ครับ
![gtm-for-wordpress-plugin Google Tag Manager for WordPress Plugin](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-for-wordpress-plugin-pajqx4nyjl7nugqckf5ysfmpmfcl5uwqd6rct8pkqo.png)
ในส่วนของการติดตั้ง Code GTM Container นั้นมีแค่นี้ครับ
ทีนี้เราจะมาลองสร้าง Tag กันดูนะครับ โดยใช้ตัวอย่างเป็น Google Analytics Tag ครับ
(สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจ สามารถอ่านเพิ่มเติม Google Analytics สำหรับผู้เริ่มต้น ได้ที่นี่ครับ)
วิธีการติดตั้ง Google Analytics ผ่านทาง GTM
กดตรง New Tag เพื่อทำการสร้าง Tag ขึ้นมาใหม่
![gtm-new-tag GTM Add New Tag](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-new-tag-pajqxc6o29hyfcffciezcdqedibivfql27z8ngefe0.png)
ให้เลือก Tag เป็น Google Analytics: Universal Analytics
![gtm-new-ga-tag Google Analytics Template Tag](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-new-ga-tag-pajqxb8tvfgo3qgsi00crvyxs4g5nqmuq3br66ftk8.png)
ให้เลือก Track Type เป็น Page View
![gtm-ga-tag การตั้งค่าต่าง ๆ ของ Google Analytics Tag ผ่านทาง GTM](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-ga-tag-pajqx5lsqf8y62ozexklcxe67t7ydk0gpbeuaio6me.png)
ในส่วนของ Google Analytics Settings ทางระบบจะให้เราสร้าง Variable ของ GA ขึ้นมา ให้ใส่ Tracking ID ของ GA ของคุณ (คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีค้นหา Google Analytics Tracking ID ของคุณ)
![gtm-constant-variable GA Tracking ID](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-constant-variable-pajqx1ufz33svmug0vy32ycbu9qhirljcsswdetr5q.png)
ในส่วนของ Triggering เมื่อคลิกแล้ว ให้เลือก Trigger เป็น All Pages คือหมายถึงให้ Tag นี้ทำงานในทุก ๆ หน้าที่มีการโหลดหน้าเว็บ
![gtm-trigger All Pages Trigger](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-trigger-pajqxirje3qyom5va39dbu2mj7f3dbgpf4jn0e4o6g.png)
เมื่อสร้าง Tag กับ Trigger เสร็จแล้วให้ตรวจสอบการทำงานของ GTM ผ่าน Preview Mode ก่อน
![gtm-preview GTM Preview](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-preview-pajqxd4i93j8qye270tlwvhuyw6w34ubecmq4qd17s.png)
ให้ใส่ URL ของเว็บไซต์ของคุณเข้าไป เช่น https://www.konvertive.com แล้วกดปุ่ม Start
![gtm-debug-mode โหมด Debug ของ GTM](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-debug-mode-pajqx2sa5x5378t2vecpng3sfnluqgp9oxgduosd48.png)
ถ้าขึ้นในส่วนของ Tag Fired แปลว่า Tag นี้ทำงาน แต่ถ้าขึ้นในส่วนล่างตรง Tag Not Fired แปลว่า Tag นี้ไม่ทำงาน
![gtm-debug-panel GTM Debug Panel](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-debug-panel-pajqx3q4cr6diurppwrc7xv911h7y5t0123vbyqyy0.png)
เมื่อเรียบร้อยดีแล้ว ก็ทำการ Publish ขึ้นเว็บไซต์เพื่อใช้งานจริงต่อไป โดยกดที่ปุ่ม Submit
![gtm-submit ปุ่ม GTM Submit](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-submit-pajqxfy0tln3ps9yqk1hmcs8r1szq85ieql6kk8up4.png)
แล้วกรอกรายละเอียดลงไปว่าใน Version นี้ได้ทำการเพิ่ม Tag อะไรเข้าไป หรือทำการเปลี่ยนแปลงอะไรตรงไหนบ้าง
ทุกครั้งเมื่อคุณ Publish ระบบจะทำการ Version Control ไว้ให้คุณสามารถย้อนกลับไปใช้ GTM Version เก่า ๆ ได้ด้วย
![gtm-publish ใส่รายละเอียดต่าง ๆ ก่อนทำการ Publish GTM ขึ้นไป](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/gtm-publish-pajqxe2cfxkj2kcp1j88hd9bka29aty1qha7m0bn1k.png)
โดยที่ทาง Google ก็ได้ทำเป็นคลิปสั้น ๆ สอนวิธีการติดตั้ง GTM ไว้ที่คลิปด้านล่างนี้ด้วยครับ
GTM อยากให้คุณลองใช้ดูแล้วจะติดใจ
ถึงตรงนี้ผมก็อยากจะบอกว่า GTM นั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับบริหารจัดการพวก Tags ต่าง ๆ เพียงอย่างเดียว คุณสามารถนำ GTM มาใช้ได้มากกว่านี้อีกเยอะเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Event Tracking ต่าง ๆ, Enhanced Ecommerce และก็อีกเพียบเลยครับ
แต่เอาแค่เรื่องของการจัดการพวก Tags ต่าง ๆ ผมว่าก็ทำให้คุณประหยัดเวลาไปได้เยอะแล้วครับ
ยังไงลองใช้ดูครับ หากว่าติดคำถามตรงจุดไหน ก็ฝากไว้ที่ Comments ด้านล่างกันได้เลยนะครับ
ขอบคุณมากครับ
![](https://www.konvertive.com/wp-content/uploads/2020/01/attawee.jpg)
อรรถทวี (Google Tag Manager Advocate) เจริญวัฒนวิญญู
Konvertive – Delivering Your Business Conversions with Digital Marketing!